“โช๊คอัพ” ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ที่นอกจากจะคอยช่วยรับแรงกระแทกที่เกิดขณะขับขี่แล้ว ยังช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมทิศทางของรถอีกด้วย ดังนั้น ผู้ใช้รถที่มีประสบการณ์มักจะให้ความสำคัญในการตรวจเช็คโช๊คอัพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากโช๊คอัพเกิดเสียหรือเสื่อมสภาพขึ้นมา แม้มันจะยังพอใช้งานได้อยู่ก็ตาม แต่ไม่นานความเสียหายก็จะลุกลามจนอาจทำให้ช่วงล่างของรถเสียหายทั้งระบบเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้ใช้รถมือใหม่ที่อยากรู้ว่าโช๊คอัพของตัวเองมีปัญหาหรือไม่ วันนี้เราก็มี 6 วิธีการตรวจเช็คโช๊คอัพง่าย ๆ ด้วยตัวเองมากฝากกัน 

1. ใช้มือกดไปที่ฝากระโปรงหน้ารถแล้วปล่อย

ให้ใช้มือกดลงไปที่บริเวณฝากระโปรงรถแล้วปล่อย จากนั้นลองสังเกตว่ารถยนต์ของเรามีอาการเด้งขึ้นลงหรือไม่ หากมีการเด้งขึ้นลงหลายครั้งแสดงว่าโช๊คอัพรถยนต์ของเราอาจได้รับความเสียหายหรือกำลังเสื่อมสภาพ ทำให้ประสิทธิภาพการยืด-หดของสปริงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเอง

2. โช๊คอัพรถยนต์ผิดรูปหรือไม่ 

ให้ลองตรวจสอบรูปร่างของโช๊คอัพของเราว่ามีอาการผิดรูปหรือไม่ แกนโช๊คมีการหด งอ หรือบิดเบี้ยวหรือเปล่า โดยเฉพาะบริเวณกระบอกโช๊คที่ควรดูให้แน่ใจว่ามีการบิดเบี้ยวหรือยุบตัวตรงไหนหรือไม่ หากพบอาการผิดปกติควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน

3. ตรวจเช็ครอยรั่วของน้ำมัน

ให้ตรวจเช็ครอยรั่วของน้ำมันบริเวณกระบอกโช๊คอัพ หากพบร่องรอยรั่วซึมหรือมีคราบน้ำมันในบริเวณที่ไม่ควรมี เช่น คราบน้ำมันเปรอะเปื้อนบริเวณแกนโช๊คอัพ แสดงว่าโช๊คอัพของเราอาจแตกซะแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มักมาจากการได้รับแรงกระแทกที่รุนแรงขณะขับขี่นั่นเอง 

4. หน้ารถมีอาการเชิดขึ้นหรือไม่

ให้ลองสังเกตว่า ขณะทำการออกตัวด้วยความเร็วปกติ หน้ารถมีอาการเชิดขึ้นหรือไม่และเมื่อเบรคที่ความเร็วต่ำ หน้ารถมีอาการทิ่มลงหรือไม่ และเมือขับขี่บนทางขรุขระหรือขึ้นลูกระนาด รถมีอาการสั่นหรือเด้งขึ้นลงหลาย ๆ ครั้งหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้แสดงว่าโช๊คอัพรถยนต์ของเรากำลังมีปัญหาแล้ว  

5. รถมีอาการส่ายหรือไม่

ให้ลองสังเกตว่าขณะวิ่งบนถนนที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถมีอาการส่ายไปมาหรือไม่ หรือมีอาการร่อนเสียการทรงตัวไปจากทิศทางเดิมเมื่อถูกลมปะทะจากด้านข้างหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งบอกว่าโช๊คอัพของเรากำลังมีปัญหา 

6. กระบอกโช๊คอัพมีความร้อนหรือไม่

ให้ลองตรวจสอบโช๊คอัพทันทีหลังดับเครื่องยนต์ โดยการสัมผัสที่กระบอกโช๊คอัพรถยนต์ หากสัมผัสเจอความร้อนจากตัวกระบอกแสดงว่าโช๊คอัพของเรายังทำงานได้ปกติ แต่หากสัมผัสแล้วไม่พอความร้อนแสดงว่าโช๊คอัพของเรากำลังมีปัญหาจนไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

เช็กลิสที่เรานำมาฝากกันในวันนี้คือวิธีการตรวจเช็คโช๊คอัพพื้นฐานที่ผู้ใช้รถทุกคนควรหมั่นตรวจสอบด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ของคุณพร้อมสำหรับการใช้งาน แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีตัวเลือกโช๊คอัพดี ๆ สำหรับรถยนต์ของตัวเองแล้วละก็ ต้องไม่พลาด “โช๊คอัพแคมโบ” ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอุปกรณ์รถยนต์มากว่า 40 ปี โดยเฉพาะระบบโช๊คอัพที่มีให้เลือกหลากหลายแบบรูปแบบ ทั้งระบบ Mono tube และ Twin tube ปรับระดับได้และไม่ปรับระดับ แถมยังราคาสบาบกระเป๋า คุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากนี้ยังมีทีมงาน แคมโบ คอยให้คำปรึกษาเพื่อเลือกโช๊คอัพที่เหมาะสมกับรถยนต์ของเราอีกด้วย เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องโช๊คอัพไปได้เลย